ในยุคที่ข้อมูลเปรียบเสมือนทรัพย์สินมีค่า การละเมิดข้อมูล หรือ Data Breach ได้กลายเป็นภัยคุกคามสำคัญที่องค์กรทุกขนาดต้องเผชิญ ผู้คนนับล้านทั่วโลกล้วนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ Data Breach ในทุก ๆ ปี ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายทั้งเรื่องความเป็นส่วนตัว ทรัพย์สิน และชื่อเสียง

Data Breach คืออะไร?

เข้าใจ Data Breach และภัยคุกคามในยุคดิจิทัล

การละเมิดข้อมูล หรือ Data Breach คือ การเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ ข้อมูลส่วนตัว หรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นจากการโจรกรรมข้อมูลหรือการแฮก (Hacking) ในรูปแบบต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดการเจาะรหัสเข้าฐานข้อมูล และดึงข้อมูลออกไปขายต่อหรือนำไปใช้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายแก่บุคคล ทรัพย์สิน และความมั่นคงขององค์กรได้อย่างมาก

ตามรายงานของ IBM Cost of a Data Breach 2024 พบว่าค่าใช้จ่ายเฉลี่ยจากการเกิด Data Breach ทั่วโลกสูงถึง 4.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ 83% ขององค์กรที่เคยถูกละเมิดข้อมูลมักถูกโจมตีซ้ำมากกว่าหนึ่งครั้ง สถิติดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า Data Breach เป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวและเป็นปัญหาที่ยากจะจัดการ

ความแตกต่างระหว่าง Data Breach และ Data Leak

Data Breach และ Data Leak เป็นสองคำที่อาจดูคล้ายกันแต่มีความหมายแตกต่างกัน โดยการรั่วไหลของข้อมูล (Data Leak) มักเกิดจากอุบัติเหตุและเกิดขึ้นเมื่อแหล่งข้อมูลภายในเปิดเผยข้อมูลแก่บุคคลภายนอก ในขณะที่ การละเมิดข้อมูล มักเกิดขึ้นจากการที่บุคคลภายนอกพยายามเข้าถึงเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อเข้าถึงหรือขโมยข้อมูล 

ในการละเมิดข้อมูล ยังมีเรื่องของ Personal Data Breach หรือการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล คือ เหตุการณ์ที่ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลถูกเปิดเผย เข้าถึง แก้ไข หรือทำลาย โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทั้งจากความจงใจหรือความประมาท สามารถพบได้บ่อยในกรณีที่มิจฉาชีพต้องการปลอมแปลงเอกสาร เพื่อทำธุรกรรมที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อบุคคลผู้เป็นเจ้าของข้อมูลนั้น ๆ และอาจนำไปสู่การสูญเสียทรัพย์สิน

สาเหตุของการเกิด Data Breach

Data Breach คืออะไร? 2

การละเมิดข้อมูลมีสาเหตุหลากหลาย ทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกองค์กร ดังนี้

1. ระบบความปลอดภัยที่ไม่รัดกุม (Weak Security)

หากไม่มีการตั้งค่ารหัสผ่านที่รัดกุม กำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงระบบเครือข่ายองค์กร หรือไม่มีการติดตั้งไฟร์วอลล์ (Firewall) อย่างเหมาะสม อาจเป็นช่องโหว่ให้เกิด Data Breach เมื่อแฮกเกอร์พบช่องโหว่นี้ ก็จะสามารถแทรกมัลแวร์ (Malware) เพื่อบันทึกข้อมูลและส่งกลับไปยังแฮกเกอร์

2. การโจมตีด้วยรหัสผ่าน (Password Attack)

การตั้งรหัสผ่านที่คาดเดาง่ายหรือใช้รหัสผ่านเดียวกันหลายบัญชี ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้ ดังนั้นการตั้งรหัสผ่านจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต  ดังนั้นการป้องกันอุปกรณ์ปลายทาง เช่น EDR และ MDR จึงเป็นอีกมาตรการความปลอดภัยที่สำคัญ โดยเฉพาะเมื่อพนักงานแต่ละคนมีคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายขององค์กร

3. การโจมตีทางวิศวกรรมสังคม (Social Engineering Attacks)

การโจมตีทางวิศวกรรมสังคม คือ การบิดเบือนทางจิตวิทยาเพื่อหลอกให้เหยื่อส่งมอบข้อมูลที่ละเอียดอ่อน โดยหนึ่งในรูปแบบวิศวกรรมสังคมที่พบได้บ่อย คือ การฟิชชิง (Phishing) ซึ่งเป็นการหลอกล่อให้ผู้ใช้งานกรอกข้อมูลส่วนตัวในหน้าเว็บไซต์หรือลิงก์ที่มีมัลแวร์แฝงอยู่

4. ภัยคุกคามจากภายใน (Insider Threats)

ในบางกรณี บุคลากรภายในองค์กรอาจเป็นผู้ทำการละเมิดข้อมูล โดยใช้สิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลอ่อนไหวหรือเป็นความลับของบริษัท ซึ่งมักจะทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวหรือความไม่พอใจต่อองค์กร เช่น พนักงานคัดลอกข้อมูลลูกค้าเพื่อนำไปขายต่อให้บุคคลที่สาม (Third-Party)

5. การดาวน์โหลดจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ (Drive-by Download)

หากมีการดาวน์โหลดโปรแกรมจากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจมีการแทรกไวรัสหรือมัลแวร์ (Malware) ลงในคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายขององค์กร ซึ่งอาจนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลได้ในที่สุด ดังนั้นติดตั้งระบบ เช่น Secure Web Gateway ที่เป็นโซลูชันป้องกันภัยจากอินเทอร์เน็ตจึงเป็นอีกหนึ่งมาตรการความปลอดภัยที่ควรพิจารณา

6. การโจมตีด้วย Ransomware

Ransomware เป็นมัลแวร์ประเภทหนึ่งที่มักเข้ารหัสข้อมูลสำคัญและเรียกค่าไถ่จากองค์กร เพื่อปลดล็อกข้อมูลเหล่านั้น โดยแฮกเกอร์จะล็อกการเข้าถึงข้อมูลจนกว่าจะได้รับการชำระเงิน จากสถิติในปี 2024 พบว่า มูลค่าความเสียหายเฉลี่ยจาก Ransomware นั้นมีมูลค่าสูงถึง 4.91 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ยังไม่รวมค่าไถ่ที่อาจมีมูลค่าสูงหลายสิบล้านดอลลาร์

7. การโจมตีห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Attacks)

Supply Chain Attacks คือ การโจมตีที่เกิดขึ้นผ่านผู้ให้บริการหรือระบบที่เกี่ยวข้องกับองค์กร โดยแฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ในซอฟต์แวร์หรือบริการจากพาร์ตเนอร์ที่องค์กรใช้ ทำให้ข้อมูลหลุดรั่วโดยที่องค์กรไม่สามารถรับรู้ หรือรับมือได้ทันท่วงที

8. การโจมตีด้วย AI (AI-Powered Cyber Attacks)

ปัจจุบัน เทคโนโลยีและ AI ได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว แฮกเกอร์จึงประยุกต์ใช้ AI และ Machine Learning เพื่อวิเคราะห์ช่องโหว่ของระบบ และคิดค้นวิธีการโจมตีที่แม่นยำและยากต่อการตรวจจับ เช่น การลอกเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์เพื่อหลอกลวงเหยื่อในการ Phishing เป็นต้น

ผลกระทบของ Data Breach ต่อองค์กรและบุคคล

Data Breach สร้างผลกระทบร้ายแรงทั้งต่อองค์กรและบุคคล ทั้งในด้านการเงิน ชื่อเสียง และความเชื่อมั่น

ผลกระทบต่อองค์กร

  • ความเสียหายทางการเงิน - โดยมีค่าใช้จ่ายในการจัดการกับการละเมิด ค่าปรับ และการฟ้องร้องทางกฎหมาย
  • สูญเสียชื่อเสียง - ความเชื่อมั่นของลูกค้าและพาร์ทเนอร์ลดลง ส่งผลต่อยอดขายและรายได้ในระยะยาว
  • ธุรกิจหยุดชะงัก - ระบบบางอย่างอาจต้องหยุดทำงานชั่วคราว เพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหา
  • การสูญเสียทรัพย์สินทางปัญญา - ข้อมูลลับทางธุรกิจอาจถูกขโมยและนำเผยแพร่หรือนำไปใช้โดยคู่แข่ง
  • ผลกระทบทางกฎหมาย - หากขาดระบบป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์จนส่งผลให้เกิด Data Breach องค์กรอาจถูกตั้งข้อหาในการละเมิด พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ซึ่งนำไปสู่การถูกฟ้องร้องและการปรับ

ผลกระทบต่อบุคคล

  • การโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล - ข้อมูลส่วนตัวที่ถูกขโมยอาจถูกนำไปใช้ในการปลอมแปลงตัวตน
  • ความเสียหายทางการเงิน - การเข้าถึงบัญชีธนาคาร หรือบัตรเครดิตโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • การคุกคามความเป็นส่วนตัว - ข้อมูลที่สามารถใช้ระบุตัวตนอาจถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ

กรณีศึกษา Data Breach ในประเทศไทย

  1. ข้อมูลคนไทยเกือบ 20 ล้านชุดถูกประกาศขาย (2024) - ข้อมูลประกอบด้วยชื่อ–นามสกุล เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่ ถูกแฮกเกอร์ขโมยจากเครือข่ายของกรมกิจการผู้สูงอายุและกองทัพเรือ
  2. ข้อมูลรั่วไหลจากอดีตพนักงาน JIB (2024) - อดีตพนักงานบริษัท JIB ได้ขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไปใช้ในทางที่มิชอบ โดย JIB ถูกปรับเป็นเงินจำนวน 7 ล้านบาท เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด PDPA
  3. ข้อมูลผู้สมัคร สว. หลุด 2 หมื่นรายชื่อ (2024) - เกิดเหตุการณ์ละเมิดข้อมูลภายในระบบของ กกต. ส่งผลให้ข้อมูลของผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภาระดับอำเภอจำนวน 20,000 รายรั่วไหล
  4. The 1 Card ถูกขโมยข้อมูลสมาชิก (2024) - ข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกบัตร The 1 Card กว่า 5 ล้านบัญชีถูกแฮกเกอร์ขโมยและเปิดเผยบนดาร์กเว็บ (Dark Web)

กลยุทธ์การป้องกัน Data Breach สำหรับองค์กร

Data Breach คืออะไร? 3

การป้องกัน Data Breach ต้องใช้วิธีการแบบองค์รวมที่ผสมผสานทั้งเทคโนโลยี กระบวนการ และการอบรมบุคลากร เพื่อสร้างรากฐานความปลอดภัยดิจิทัล ช่วยลดความเสี่ยงและผลกระทบจากการละเมิดข้อมูลที่อาจเกิดขึ้น

1. การเสริมระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์

การเสริมความปลอดภัยของข้อมูล เป็นพื้นฐานสำคัญในการป้องกัน Data Breach องค์กรควรตั้งค่าการเข้าถึงข้อมูลโดยกำหนดสิทธิ์ (Access Control) อย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน ควบคู่กับการใช้ระบบฐานข้อมูล (Data Warehouse) ที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การเข้ารหัสข้อมูลสำคัญทั้งในขณะจัดเก็บและระหว่างการส่งข้อมูลช่วยให้แม้ว่าข้อมูลจะถูกโจรกรรม ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงหรือนำไปใช้งานได้โดยง่าย

2. การรักษาความปลอดภัยของรหัสผ่าน

การตั้งรหัสผ่านรักษาความปลอดภัยของรหัสผ่าน นับเป็นหนึ่งแนวป้องกันด่านแรกที่ทุกองค์กรต้องให้ความสำคัญ โดยเน้นใช้งานรหัสผ่านที่คาดเดาได้ยากและมีความซับซ้อน เพื่อป้องกันการโจมตีด้วยการสุ่มรหัสผ่าน (Brute-Force Attack) พร้อมเปิดใช้งานการใช้การยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย (Multi-Factor Authentication - MFA) เพิ่มความปลอดภัยอีกระดับโดยไม่พึ่งพารหัสผ่านเพียงอย่างเดียว อีกทั้งองค์กรควรกำหนดนโยบายให้พนักงานเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำทุก 60-90 วัน และใช้ระบบจัดการรหัสผ่านหรือ Authenticator ที่ได้รับการรับรอง ก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากการรั่วไหลของข้อมูลได้นั่นเอง

3. การเพิ่มความปลอดภัยของเครือข่าย

ในยุคที่มีการเชื่อมต่อระบบออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง องค์กรควรใช้ ไฟร์วอลล์ (Firewall) เพื่อตรวจสอบข้อมูลที่เข้า-ออกระบบเครือข่าย หรืออาจพิจารณาอัปเกรดเป็น Next-Generation Firewall (NGFW) ที่มีความสามารถในการตรวจจับภัยคุกคามขั้นสูง 

นอกจากนี้ การใช้ระบบป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล (Data Loss Prevention) ช่วยตรวจจับและป้องกันการส่งข้อมูลสำคัญไม่ให้ออกนอกระบบขององค์กรโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้ง การแบ่งส่วนเครือข่าย (Network Segmentation) ยังช่วยจำกัดการแพร่กระจายของการละเมิดให้อยู่ในวงจำกัดหากเกิดเหตุการณ์โจรกรรมข้อมูลหรือถูกแฮก

4. การใช้เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง

ปัจจุบันมีโซลูชันความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่สามารถช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการป้องกัน Data Breach ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น ระบบตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามบนอุปกรณ์ปลายทาง (EDR) ที่ช่วยป้องกันคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ จากการโจมตี ในขณะที่บริการตรวจจับและตอบสนองที่มีการจัดการ (MDR) มอบการตรวจสอบและตอบสนองต่อภัยคุกคามแบบ 24/7 ที่กำกับดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์

ในมุมของการป้องกันภัยคุกคามในอินเทอร์เน็ต โซลูชันอย่าง Secure Web Gateway สามารถป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย และยังมีระบบจัดการเหตุการณ์ความปลอดภัย (SIEM) ที่รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลด้านความปลอดภัยจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อตรวจจับความผิดปกติอีกด้วย

5. การฝึกอบรมบุคลากรภายในองค์กร

นอกเหนือจากโซลูชันความปลอดภัยรูปแบบต่าง ๆ แล้ว การจัดการฝึกอบรมและสร้างความตระหนักให้บุคลากรก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ โดยองค์กรควรจัดฝึกอบรมเกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์อย่างสม่ำเสมอ สร้างความตระหนักเกี่ยวกับเทคนิคการหลอกลวง เช่น Phishing และวิธีการตรวจจับ แนะแนววิธีการระบุและรายงานกิจกรรมหรือพฤติกรรมที่น่าสงสัย พร้อมทั้งสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยภายในองค์กรที่ทุกคนมีส่วนร่วมในการปกป้องข้อมูล 

6. การใช้ Cloud Computing อย่างปลอดภัย

ในยุคที่องค์กรต่าง ๆ ย้ายข้อมูลไปยังคลาวด์มากขึ้น การเลือกใช้ Cloud Computing Hybrid ที่มีการรักษาความปลอดภัยรัดกุมช่วยให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นของคลาวด์โดยไม่เสี่ยงต่อภัยคุกคาม ทั้งยังควรตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยบนคลาวด์อย่างสม่ำเสมอ การกำหนดนโยบายการเข้าถึงข้อมูล และการจัดการข้อมูลบนคลาวด์ที่ชัดเจน ทั้งหมดนี้จะช่วยลดความเสี่ยงของการละเมิดข้อมูลในสภาพแวดล้อมคลาวด์ได้

7. การจัดการการตอบสนองต่อเหตุการณ์

องค์กรควรพัฒนาแผนการตอบสนองต่อเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่ครอบคลุมและทดสอบแผนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าใช้งานได้จริงเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นจริง โดยมีการกำหนดบทบาทและความรับผิดชอบอย่างชัดเจนในกรณีเกิดการละเมิด เพื่อช่วยให้ทีมสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การสำรองข้อมูลสำคัญอย่างสม่ำเสมอ และทดสอบการกู้คืนช่วยให้มั่นใจว่าธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้แม้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง

Data Breach เป็นภัยคุกคามที่สำคัญในยุคดิจิทัล โดยมีเป้าหมายตั้งแต่ระดับบุคคลไปจนถึงระดับองค์กร ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบทางการเงิน แต่ยังรวมถึงชื่อเสียงและความไว้วางใจจากลูกค้าและพาร์ทเนอร์อีกด้วย ในโลกที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง การป้องกัน Data Breach ต้องอาศัยการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี กระบวนการ และการศึกษาบุคลากร พร้อมลงทุนในโซลูชันความปลอดภัยที่ครอบคลุม เพื่อความยั่งยืนและความสำเร็จในระยะยาวขององค์กร

Sangfor Technologies นำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมเพื่อช่วยองค์กรในการป้องกัน Data Breach และรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนในปัจจุบัน ด้วยโซลูชันที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญและรักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจ  

สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์จาก Sangfor ได้ที่ www.sangfor.com หรือติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อขอรับคำปรึกษาเพิ่มเติม

Search

Get in Touch

Get in Touch with Sangfor Team for Business Inquiry

Name
Email Address
Business Phone Number
Tell us about your project requirements

Related Articles

Cyber Security

Singapore Faces Surge in Cryptocurrency Investment Scams: Authorities Urge Vigilance

Date : 07 May 2025
Read Now
Cyber Security

Cyber Security ปี 2025 แนะนำเทรนด์ความปลอดภัยที่องค์กรควรจับตามอง

Date : 30 Apr 2025
Read Now
Cyber Security

WooCommerce Users Targeted by Fake Patch Phishing Emails

Date : 29 Apr 2025
Read Now

See Other Product

Sangfor Omni-Command
Sangfor Endpoint Secure แอนตี้ไวรัสยุคใหม่ (NGAV) สำหรับองค์กรของคุณ
SASE ROI Calculator - Assess Sangfor SASE’s Total Economic Impact
Cyber Command - NDR Platform - Sangfor Cyber Command - แพลตฟอร์ม NDR
Sangfor Endpoint Secure
Internet Access Gateway (IAG)