การปกป้ององค์กรของคุณจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ไม่ใช่งานเล็กๆ เนื่องด้วยรายละเอียดและขั้นตอนต่างๆ ที่ต้องให้ความสนใจ ตั้งแต่การจัดการเครือข่ายขนาดใหญ่ไปจนถึงการปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนในอุปกรณ์ปลายทางหลายชิ้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า ธุรกิจกำลังเผชิญกับความท้าทายที่มีความซับซ้อนสูงท่ามกลางภูมิทัศน์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) ในปัจจุบัน ด้วยการเพิ่มขึ้นของการโจมตีด้วยมัลแวร์ (Malware) อย่าง Ransomware การมีซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่เหมาะสมสำหรับองค์กรจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงแค่เพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการรักษาความไว้วางใจและความต่อเนื่องในการดำเนินงานอีกด้วย

หากคุณกำลังมองหาผู้ให้บริการโซลูชันที่น่าเชื่อถือ Sangfor นำเสนอหนึ่งในโซลูชัน Antivirus Software ที่ดีที่สุดสำหรับองค์กรที่ออกแบบมาเพื่อการดำเนินงานขนาดใหญ่ ในบทความนี้ เราจะสำรวจบริการของ Sangfor และเปรียบเทียบกับตัวเลือกซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสสำหรับองค์กรชั้นนำจากผู้ให้บริการรายอื่นๆ เพื่อให้คุณทราบถึงข้อมูลเชิงลึกในการตัดสินใจอย่างชาญฉลาด

Top Antivirus Software for Enterprise Brands

Enterprise Antivirus Software คืออะไร? 

Antivirus Software คือ โซลูชันความปลอดภัยทางไซเบอร์เฉพาะทางที่ออกแบบมาเพื่อปกป้ององค์กรขนาดใหญ่จากอันตรายอย่างไวรัส มัลแวร์ มัลแวร์เรียกค่าไถ่ และภัยคุกคามที่เป็นอันตรายอื่นๆ ต่างจาก โดย Enterprise Antivirus Software มีข้อแตกต่างจากซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสสำหรับผู้บริโภคทั่วไปตรงที่มีการออกแบบการจัดการแบบรวมศูนย์ (Centrailized) และความสามารถในการปรับขนาด (Scalable) ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจที่มีโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่กว้างขวาง

โซลูชันเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อตรวจจับ วิเคราะห์ และกำจัดภัยคุกคามที่ซับซ้อนที่มุ่งเป้าไปยังอุปกรณ์ปลายทาง เช่น เซิร์ฟเวอร์และเครือข่าย เป็นต้น ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสสำหรับองค์กรมักทำงานควบคู่กับเครื่องมืออย่างอื่นๆ ไฟร์วอลล์ (Firewall) และฮาร์ดแวร์ โดยผสานรวมเข้ากับระบบนิเวศไอทีที่มีอยู่อย่างราบรื่น และลดการหยุดชะงักในการดำเนินงานให้น้อยที่สุด

คุณสมบัติสำคัญของซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสสำหรับองค์กร

โซลูชัน ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส ที่เชื่อถือได้สำหรับองค์กรรวมเทคโนโลยีล้ำสมัยกับคุณสมบัติการจัดการที่ใช้งานง่ายเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะขององค์กรขนาดใหญ่ ด้านล่างนี้คือลักษณะสำคัญที่ควรมองหา

  • การตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามขั้นสูง: ด้วยการใช้ AI และ Machine Leanring ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสสมัยใหม่สามารถระบุและกำจัดภัยคุกคามที่ซับซ้อนได้แบบเรียลไทม์ การป้องกันเชิงรุกนี้ช่วยลดผลกระทบของการโจมตีด้วยมัลแวร์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ความสามารถในการปรับขนาดและการจัดการแบบรวมศูนย์: Antivirus Software สำหรับองค์กรเป็นโซลูชันที่ปรับขนาดได้ จึงช่วยให้ธุรกิจสามารถรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ปลายทางนับพันเครื่องได้ ในขณะที่ทีมไอทีสามารถควบคุมแบบรวมศูนย์ ช่วยให้มั่นใจถึงการนำมาปรับใช้ การอัปเดตซอฟต์แวร์ และการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพทั่วทั้งองค์กร
  • การวิเคราะห์พฤติกรรม: ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสชั้นนำสำหรับองค์กรต่างมีความสามารถในการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้งานและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อตรวจจับความผิดปกติที่บ่งชี้ถึงภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น เช่น ความพยายามในการเข้าถึงไฟล์ข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการถ่ายโอนข้อมูลที่ดูผิดปกติ ซึ่งเป็นการป้องกันอีกชั้นนอกเหนือจากระบบ Data Loss Prevention เพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลสู่สาธารณะ
  • ความสามารถในการผสานรวมกับเครื่องมือความปลอดภัยที่มีอยู่: โซลูชันซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสสมัยใหม่สามารถทำงานร่วมกับเครื่องมือด้าน Cybersecurity ที่มีอยู่อย่างไร้รอยต่อ เช่น ระบบการจัดการข้อมูลและเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย (SIEM), Next-Generation Firewall (NGFW) ไปจนถึงแพลตฟอร์ม Identity Management ความเข้ากันได้กับระบบต่างๆ ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการรักษาความปลอดภัยโดยรวม และปรับปรุงประสิทธิภาพการตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อีกด้วย
  • คุณสมบัติความปลอดภัยบนคลาวด์: โซลูชันซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสแบบ Cloud-Based ถูกออกแบบมาให้มีการอัปเดตแบบเรียลไทม์และใช้ข่าวกรองภัยคุกคามแบบไดนามิก (Dynamic Threat Intelligence) ทำให้เหมาะสำหรับการทำงานระยะไกลหรือแบบไฮบริด โดยเครื่องมือเหล่านี้ลดการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานแบบ On-Premise และปรับตัวได้อย่างรวดเร็วต่อภัยคุกคามใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น

วิธีเลือก Antivirus Software ที่ดีที่สุดสำหรับองค์กร

ในการค้นหาซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่เหมาะสมสำหรับองค์กร ควรทำการประเมินว่าโซลูชันนั้นเหมาะกับความต้องการเฉพาะขององค์กรของคุณมากเพียงใด ด้วยตัวเลือกที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน ธุรกิจต้องให้ความสำคัญกับคุณสมบัติที่สอดคล้องกับเป้าหมายการดำเนินงาน โดยมีข้อควรพิจารณาในการระบุโซลูชัน Antivirus Software ที่เหมาะกับองค์กร ดังนี้

  • คุณสมบัติความปลอดภัยที่ครอบคลุม - เลือกซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่มีฟีเจอร์การป้องกันอุปกรณ์ปลายทาง การตรวจจับมัลแวร์ขั้นสูง และความสามารถในการเข้ารหัส คุณสมบัติเหล่านี้ให้การป้องกันที่แข็งแกร่งต่อภัยคุกคามสมัยใหม่ เช่น Ransomware และการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต รักษาความปลอดภัยให้กับสินทรัพย์ขององค์กรในทุกระดับ
  • ความง่ายในการติดตั้งและใช้งาน - ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่ดีควรทำให้กระบวนการปรับใช้เรียบง่าย ลดเวลาหยุดทำงาน (Downtime) ระหว่างการติดตั้งและการกำหนดค่า นอกจากนี้ ควรมี Interface ที่ใช้งานง่าย เพื่อช่วยให้ทีมไอทีสามารถตรวจสอบและจัดการความปลอดภัยโดยไม่ต้องเข้ารับการฝึกอบรมมากเกินจำเป็น
  • การสนับสนุนจากผู้ขายและความน่าเชื่อถือ - แนะนำให้ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียงที่ให้การอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ มอบการสนับสนุนทางเทคนิคได้ดี และมีประวัติการให้บริการที่พิสูจน์แล้ว ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า บริการสนับสนุนที่เชื่อถือได้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการแก้ไขช่องโหว่อย่างรวดเร็ว และการรักษากลยุทธ์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีประสิทธิภาพ
  • ฟีเจอร์ที่ปรับแต่งได้และความสามารถในการปรับขนาด - เลือกโซลูชันที่ปรับให้เข้ากับความต้องการเฉพาะขององค์กรและนำเสนอตัวเลือกการปรับแต่ง เช่น นโยบายที่ปรับแต่งได้หรือการควบคุมการเข้าถึง นอกจากนี้เครื่องมือซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสควรปรับขนาดได้ ซึ่งสำคัญต่อธุรกิจที่กำลังเติบโตหรือต้องจัดการกับอุปกรณ์ปลายทางที่หลากหลาย
  • การอัปเดตข่าวกรองภัยคุกคามอย่างสม่ำเสมอ - เลือก Antivirus Software ที่เข้าถึงการอัปเดตข่าวกรองภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ที่มีแหล่งที่มาจากเครือข่ายความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วโลก คุณสมบัตินี้ช่วยให้องค์กรอยู่เหนือความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่และปรับการป้องกันให้เข้ากับเวกเตอร์การโจมตีล่าสุดได้

ประโยชน์ของการป้องกันไวรัสระดับองค์กร

การปรับใช้ Antivirus Software สามารถมอบข้อได้เปรียบที่สำคัญให้กับองค์กร ซึ่งเปลี่ยนความปลอดภัยทางไซเบอร์จากการป้องกันเชิงรับเป็นกลยุทธ์เชิงรุก เครื่องมือเหล่านี้ลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ช่วยให้บริษัทเติบโตในภูมิทัศน์ดิจิทัลที่เต็มไปด้วยภัยคุกคามในปัจจุบัน โดยสามารถสรุปข้อดีของ Antivirus Software ต่อองค์กรได้ดังนี้

  • การป้องกันเชิงรุกต่อภัยคุกคามขั้นสูง - โซลูชันซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสสำหรับองค์กรตรวจจับและป้องกันมัลแวร์ Ransomware และการโจมตีแบบ Zero-Day ก่อนที่จะก่อให้เกิดอันตรายอย่างมีนัยสำคัญ วิธีการเชิงรุกนี้ลดความเสี่ยงของการละเมิดข้อมูลและการหยุดชะงักของการดำเนินงานที่มีค่าใช้จ่ายสูง
  • ประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีขึ้น - Antivirus Software ดำเนินกระบวนการรักษาความปลอดภัยแบบอัตโนมัติ เช่น การตรวจจับภัยคุกคาม การอัปเดตแพตช์ และการตรวจสอบระบบ โซลูชันเหล่านี้ช่วยลดภาระด้านทรัพยากรไอที ให้มีพื้นที่ว่างสำหรับการค้นคว้ากลยุทธ์อื่นๆ ลดเวลาหยุดทำงานให้น้อยที่สุด และช่วยให้การดำเนินธุรกิจอย่างราบรื่นโดยไม่หยุดชะงัก
  • การป้องกันข้อมูลและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ - ด้วยการเข้ารหัสในตัว เครื่องมือการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการควบคุมการเข้าถึง ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส สำหรับองค์กรช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามข้อกำหนดของระเบียบข้อบังคับในขณะที่ปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจากการเข้าถึงหรือการแก้ไขโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • การประหยัดต้นทุนจากการลดการละเมิดข้อมูล - การป้องกันเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยช่วยให้ธุรกิจลดต้นทุน โดยเฉพาะในการกู้คืนข้อมูลที่มักมีค่าใช้จ่ายสูง อีกทั้งยังมีค่าปรับตามกฎข้อบังคับ และความเสียหายต่อชื่อเสียง เมื่อเวลาผ่านไปการลงทุนในซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่เชื่อถือได้พิสูจน์ จะมอบความคุ้มค่าทั้งในด้านต้นทุนและกลยุทธ์อย่างแน่นอน
  • การมองเห็นที่ดีขึ้นและการตระหนักถึงภัยคุกคาม - โซลูชัน Antivirus Software สมัยใหม่สำหรับองค์กรมี Dashboard ที่แสดงข้อมูลครอบคลุม และวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เครื่องมือเหล่านี้ช่วยเพิ่มการมองเห็นช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้นและช่วยให้ทีมไอทีตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แนะนำ Antivirus Software ชั้นนำสำหรับองค์กร

การเลือกซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่เหมาะสมสำหรับองค์กรมีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเราได้สรุปโซลูชันซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสชั้นนำบางส่วนในตลาดปัจจุบัน ซึ่งแต่ละโซลูชันนำเสนอคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อช่วยให้ธุรกิจรักษาความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมดิจิทัล มาดูกันว่ามีโซลูชันจากผู้ให้บริการใดบ้าง

1. Sangfor Endpoint Security (EDR) โดย Sangfor

Sangfor Endpoint Security ผสมผสานการตรวจจับภัยคุกคามด้วย AI เข้ากับการวิเคราะห์พฤติกรรม เพื่อมอบความสามารถในการป้องกันไวรัสเชิงรุกสำหรับองค์กร ประกอบกับฟีเจอร์การจัดการแบบรวมศูนย์ ทำให้การดูแลระบบในสภาพแวดล้อมไอทีขนาดใหญ่ง่ายดายมากยิ่งขึ้น

คุณสมบัติเด่น 

  • การตรวจจับภัยคุกคามที่ขับเคลื่อนด้วย AI - อัลกอริทึมขั้นสูงทำการระบุและกำจัดมัลแวร์แบบเรียลไทม์ เพื่อหยุดการโจมตีก่อนไม่ให้แพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ
  • การจัดการแบบรวมศูนย์ - สามารถจัดการการอัปเดต ตรวจสอบอุปกรณ์ปลายทาง และวิเคราะห์ภัยคุกคามจากได้จาก Dashboard เดียว
  • การผสานรวมแบบไร้รอยต่อ - สามารถทำงานร่วมกับโซลูชันความปลอดภัยทางไซเบอร์อื่นๆ ของ Sangfor เพื่อมอบการป้องกันแบบครบวงจร

ข้อดีและข้อเสีย 

ข้อดี

  • ปรับขนาดได้สำหรับองค์กรทุกขนาด
  • ทีมสนับสนุนที่แข็งแกร่งและการอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นประจำ
  • อินเทอร์เฟซการจัดการที่ใช้งานง่าย

ข้อเสีย

  • การตั้งค่าเริ่มต้นอาจต้องการคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
  • สำหรับทีมไอทีขนาดเล็ก การใช้ฟีเจอร์ขั้นสูงต่างๆ อาจต้องใช้ระยะเวลาในการเรียนรู้

2. SentinelOne Singularity โดย SentinelOne

SentinelOne Singularity ให้การป้องกันอุปกรณ์ปลายทางแบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อส่งมอบการตรวจจับและการตอบสนองแบบเรียลไทม์ สามารถจัดการกับภัยคุกคามไซเบอร์แบบอัตโนมัติ ซึ่งลดการแทรกแซงของมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คุณสมบัติเด่น 

  • การตรวจจับภัยคุกคามแบบอัตโนมัติ - ใช้ Machine Learning เพื่อตรวจจับภัยคุกคามโดยไม่ต้องพึ่งพาลายเซ็นของภัยคุกคามแบบโซลูชัน Antivirus Software ดั้งเดิม
  • การตรวจสอบพฤติกรรม - วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้และอุปกรณ์เพื่อสังเกตความผิดปกติตั้งแต่เนิ่นๆ
  • การดูแลบนคลาวด์ - ช่วยมอบการจัดการจากระยะไกลและการอัปเดตแบบเรียลไทม์จากทุกที่

ข้อดีและข้อเสีย 

ข้อดี

  • โดดเด่นในการป้องกันการโจมตีด้วย Ransomware
  • การตอบสนองแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบช่วยลดภาระงานที่ทีมไอทีต้องดำเนินการ
  • ปรับขนาดได้สำหรับองค์กรที่มีขนาดต่างกัน

ข้อเสีย

  • คุณสมบัติขั้นสูงอาจมีค่าใช้จ่ายสูง
  • ฟังก์ชันออฟไลน์ที่จำกัดในการกำหนดค่าที่พึ่งพาระบบคลาวด์

3. Microsoft Defender for Endpoint โดย Microsoft

Microsoft Defender for Endpoint ผสานรวมเข้ากับระบบนิเวศของ Microsoft อย่างราบรื่น ทำให้เหมาะสำหรับองค์กรที่ใช้ Azure หรือ Office 365 อยู่แล้ว โดยข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถเพิ่มความปลอดภัยของอุปกรณ์ปลายทางในเครือข่ายองค์กรได้ดี

คุณสมบัติเด่น 

  • ความปลอดภัยแบบบูรณาการ - ปกป้องอุปกรณ์ปลายทางในขณะที่ทำงานร่วมกับโซลูชัน Microsoft อื่นๆ ได้แบบรวมศูนย์
  • ข่าวกรองภัยคุกคาม - ใช้ AI เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกที่สามารถดำเนินการได้และตรวจจับภัยคุกคามขั้นสูง
  • การสนับสนุนหลายแพลตฟอร์ม - ขยายการป้องกันไปยัง Windows, macOS และแพลตฟอร์มมือถือได้

ข้อดีและข้อเสีย 

ข้อดี

  • ครอบคลุมสำหรับองค์กรที่ใช้ผลิตภัณฑ์ Microsoft อยู่แล้ว
  • มีความสามารถด้านข่าวกรองภัยคุกคามที่แข็งแกร่ง
  • คุ้มค่าสำหรับธุรกิจที่มีระบบนิเวศ Microsoft

ข้อเสีย

  • มีข้อจำกัดด้านความยืดหยุ่นหากทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่ใช่ Microsoft
  • ผู้ใช้งานอาจรู้สึกว่ามีข้อจำกัดเมื่อเทียบกับโซลูชันแบบ Standalone อื่นๆ

4. CrowdStrike Falcon Insight XDR โดย CrowdStrike

CrowdStrike Falcon Insight XDR นำเสนอความสามารถในการตรวจจับและตอบสนองภัยคุกคามผ่านแพลตฟอร์มแบบ Cloud-Native ของตน โดยมุ่งเน้นไปยัง Telemetry และการวิเคราะห์ขั้นสูง ทำให้เป็นซอฟต์แวร์ที่เป็นที่นิยมสำหรับการดำเนินงานด้านความปลอดภัยแบบเรียลไทม์

คุณสมบัติเด่น 

  • การตรวจจับภัยคุกคามแบบขยาย - ใช้ XDR เพื่อระบุภัยคุกคามในหลายๆ เวกเตอร์ เช่น อุปกรณ์ปลายทาง เครือข่าย และอีเมล
  • การวิเคราะห์ขั้นสูง - ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเหตุการณ์และแนวโน้มด้านความปลอดภัย
  • Telemetry แบบเรียลไทม์ - ตรวจสอบภัยคุกคามที่เกิดขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง

ข้อดีและข้อเสีย 

ข้อดี

  • ความสามารถด้านการวิเคราะห์และ Telemetry ที่แข็งแกร่ง
  • ทำงานแบบ Cloud-Native จึงติดตั้งและปรับขนาดได้อย่างรวดเร็ว
  • มีการตรวจสอบภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ที่ยอดเยี่ยม

ข้อเสีย

  • ต้องอาศัยทรัพยากรไอทีในปริมาณมาก เพื่อใช้ประโยชน์ของฟีเจอร์ต่างๆ ได้เต็มที่
  • ต้นทุนการติดตั้งที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งบางราย

5. Bitdefender GravityZone โดย Bitdefender

Bitdefender GravityZone นำเสนอการผสมผสานฟีเจอร์การตรวจจับภัยคุกคาม การป้องกันอุปกรณ์ปลายทาง และการจัดการความปลอดภัยแบบรวมศูนย์ ทำให้มีความยืดหยุ่นสำหรับการปรับใช้ในธุรกิจทุกขนาด นอกจากนี้ เทคโนโลยี AI ของที่มาพร้อมกับซอฟต์แว์ยังช่วยให้มั่นใจถึงการป้องกันมัลแวร์แบบเรียลไทม์อีกด้วย

คุณสมบัติเด่น 

  • การตรวจจับมัลแวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI - ตรวจจับและกำจัดภัยคุกคามขั้นสูงได้อย่างรวดเร็ว
  • การจัดการแพตช์อัตโนมัติ - ดำเนินการการอัปเดตแพตช์แบบอัตโนมัติเพื่อลดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
  • การจัดการแบบรวมศูนย์ - นำเสนอ Console การจัดการเดียวเพื่อกำกับดูแลอุปกรณ์ปลายทางทั้งหมด

ข้อดีและข้อเสีย 

ข้อดี

  • ความแม่นยำในการตรวจจับสูง เกิดผลลัพธ์ False Positive น้อย
  • เป็นตัวเลือกที่มีราคาสมเหตุสมผลสำหรับธุรกิจและองค์กรขนาดเล็ก-กลาง (SMB)
  • คุณสมบัติการจัดการแพตช์ที่ครอบคลุม

ข้อเสีย

  • อินเทอร์เฟซอาจมีความซับซ้อนในการใช้งานสำหรับผู้ใช้งานใหม่
  • มีการจำกัดคุณสมบัติบางประการ หากเลือกใช้แพ็กเกจในระดับที่ไม่สูงมาก

6. Kaspersky Endpoint Security for Business โดย Kaspersky

Kaspersky Endpoint Security เป็นโซลูชันที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกที่ในฐานะแพลตฟอร์มที่มอบการป้องกันมัลแวร์ และภัยคุกคามแบบต่อเนื่องขั้นสูง (APT) ทั้งยังมีความสามารถในผสานรวมกับระบบอื่นๆ ทำให้เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมไอทีที่หลากหลาย

คุณสมบัติเด่น 

  • การป้องกัน APT - ป้องกันภัยคุกคามแบบต่อเนื่องขั้นสูงที่มุ่งเป้าไปยังองค์กร
  • การผสมผสานที่ยืดหยุ่น - ทำงานได้ดีกับโครงสร้างพื้นฐานไอทีเดิมที่มีอยู่
  • การเข้ารหัสข้อมูล - เพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นสำหรับข้อมูลที่ละเอียดอ่อน

ข้อดีและข้อเสีย 

ข้อดี

  • มอบการป้องกันภัยคุกคามที่แข็งแกร่งในราคาที่เข้าถึงได้
  • ง่ายต่อการติดตั้งและจัดการในระบบที่หลากหลาย
  • มอบเครื่องมือการเข้ารหัสขั้นสูง เพื่อยกระดับความปลอดภัยของข้อมูล

ข้อเสีย

  • อาจมีความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวในบางภูมิภาค
  • มีความต้องการด้านระบบค่อนข้างมาก ซึ่งอาจทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์หรือเซิร์ฟเวอร์รุ่นเก่าๆ ต้องรับภาระหนัก

7. Trend Micro Business Antivirus โดย Trend Micro

Trend Micro เป็นแพลตฟอร์มป้องกันไวรัสแบบ Cloud-Native ที่ออกแบบมาสำหรับจัดการมัลแวร์ขั้นสูงและฟิชชิง (Phishing) มอบคุณสมบัติด้านความปลอดภัยอีเมลที่แข็งแกร่ง จึงทำให้เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับองค์กรที่ดำเนินธุรกิจผ่านเครื่องมือการสื่อสารอย่างอีเมลเป็นหลัก

คุณสมบัติเด่น 

  • การป้องกัน Phishing - ป้องกันภัยคุกคามที่ใช้อีเมลเป็นฐาน รวมถึงฟิชชิง (Phishing) และสแปม (Spam)
  • การวิเคราะห์ภัยคุกคามด้วย AI - ตรวจจับและบล็อกมัลแวร์ขั้นสูงอย่างแม่นยำ
  • แพลตฟอร์ม Cloud-Native - นำเสนอการอัปเดตที่ไร้รอยต่อและการจัดการจากระยะไกล

ข้อดีและข้อเสีย

ข้อดี

  • การป้องกันอีเมลและ Phishing ที่ยอดเยี่ยม
  • มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย
  • การอัปเดตบนคลาวด์ที่สามารถเชื่อถือได้

ข้อเสีย

  • ความสามารถในการปรับขนาดที่จำกัดสำหรับองค์กรขนาดใหญ่
  • แพ็กเกจระดับเริ่มต้นขาดคุณสมบัติขั้นสูง

8. Sophos Endpoint Protection โดย Sophos

Sophos Endpoint Protection นำเสนอโซลูชันที่ตรงไปตรงมาสำหรับสภาพแวดล้อมเครือข่ายองค์กร โดยรวมการป้องกันไวรัสและไฟร์วอลล์ (Firewall) รวมถึงผสานรวมกับ Sophos Central Platform ทำให้การจัดการด้านต่างๆ ง่ายขึ้น

คุณสมบัติเด่น 

  • การจัดการแบบรวมศูนย์ - ใช้ Sophos Central สำหรับการควบคุมจุดปลายทางและ ไฟร์วอลล์ แบบรวม
  • ข่าวกรองภัยคุกคาม - ใช้ประโยชน์จากข่าวกรองภัยคุกคามเพื่อบล็อกความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่
  • การผสมผสานไฟร์วอลล์ - เพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นสำหรับการป้องกันเครือข่าย

ข้อดีและข้อเสีย 

ข้อดี

  • กระบวนการตั้งค่าที่ง่ายด้วยเครื่องมือที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน
  • ผสานระบบการป้องกันอุปกรณ์ปลายทาง (EDR) และไฟร์วอลล์ (Firewall)
  • ราคาเหมาะสมสำหรับองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลาง

ข้อเสีย

  • ฟีเจอร์ขั้นสูงที่จำกัดสำหรับองค์กรขนาดใหญ่
  • อาจขาดตัวเลือกการปรับแต่งสำหรับความต้องการที่ซับซ้อนมากขึ้น

คำถามที่พบบ่อย

โซลูชันซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสสำหรับองค์กรในปัจจุบันใช้ AI และ Machine Learning เพื่อวิเคราะห์รูปแบบพฤติกรรมและระบุความผิดปกติที่บ่งชี้ถึงภัยคุกคามแบบ Zero-Day ซึ่งต่างจากวิธีการแบบดั้งเดิมที่อาศัยลายเซ็นของภัยคุกคาม อีกทั้งระบบเหล่านี้ปรับตัวแบบเรียลไทม์เพื่อกำจัดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่

ปัจจัยสำคัญรวมถึงความสามารถในการปรับขนาด การจัดการแบบรวมศูนย์ การตรวจจับภัยคุกคามด้วย AI และการสนับสนุนจากผู้ให้บริการ นอกจากนี้ ให้พิจารณาว่าโซลูชันนั้นสอดคล้องกับข้อกำหนดเฉพาะของอุตสาหกรรมธุรกิจและโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีหรือไม่ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

ต้นทุนที่ต้องใช้ในการติดตั้ง Antivirus Software แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติที่นำเสนอ โมเดลการให้สิทธิ์การใช้งาน และบริการสนับสนุน ในขณะที่โซลูชันระดับพรีเมียมอาจต้องการการลงทุนล่วงหน้าที่สูงขึ้น แต่ความสามารถขั้นสูงเพิ่มเติมมักช่วยลดต้นทุนการดำเนินการในระยะยาว โดยการป้องกันการละเมิดข้อมูลที่มีค่าใช้จ่ายสูง

โซลูชันระดับองค์กรส่วนใหญ่ในปัจจุบันถูกออกแบบมาเพื่อการผสมผสานกับเครื่องมือความปลอดภัยอื่นๆ อย่างราบรื่น เช่น ไฟร์วอลล์ ระบบ SIEM และแพลตฟอร์มการเข้ารหัสข้อมูล ความสามารถในการทำงานร่วมกันนี้ช่วยปรับปรุงการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพและเสริมความแข็งแกร่งให้กับความปลอดภัยทางไซเบอร์โดยรวมขององค์กร

การอัปเดตบ่อยครั้งมีความสำคัญในการจัดการกับภัยคุกคามใหม่ๆ และช่วยให้มั่นใจถึงการป้องกันที่ครอบคลุม ดังนั้นจึงควรมองหาโซลูชันที่นำเสนอการอัปเดตแบบอัตโนมัติและแพตช์ความปลอดภัยเป็นประจำ เพื่อลดการดูแลระบบด้วยตนเองให้น้อยที่สุด

Search

Get in Touch

Get in Touch with Sangfor Team for Business Inquiry

Name
Email Address
Business Phone Number
Tell us about your project requirements

Related Articles

Cyber Security

PDPA และ GDPR กับความสำคัญในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์

Date : 16 Jun 2025
Read Now
Cyber Security

รู้จัก ChatGPT และ Cyber Security Risks ที่มาพร้อมกับ ChatGPT

Date : 12 Jun 2025
Read Now
Cyber Security

15 อันดับโซลูชัน Endpoint Detection and Response (EDR) มอบความปลอดภัยสูงสุด

Date : 12 Jun 2025
Read Now

See Other Product

Platform-X
Sangfor Access Secure - โซลูชัน SASE
Sangfor SSL VPN
Best Darktrace Cyber Security Competitors and Alternatives in 2025
Sangfor Omni-Command
Sangfor Endpoint Secure แอนตี้ไวรัสยุคใหม่ (NGAV) สำหรับองค์กรของคุณ